พุทธาภินิหารในปุญญเขตวัดพระธรรมกาย

วันที่ 03 ตค. พ.ศ.2566

 

3-10-66_2b.png

พุทธาภินิหารในปุญญเขต
วัดพระธรรมกาย


                    นับแต่วันที่ข้าพเจ้าได้หันเหชีวิตที่กอร์ปด้วยความเพลิดเพลินสนุกสนานทางโลกเข้ามาสู่แสงธรรม ณ วัดพระธรรมกายเมื่อปี ๒๖ ต้นกุมภาพันธ์ จวบจนวันนี้ครบปีพอดี ตลอดระยะเวลาดังกล่าวนี้ ข้าพเจ้ามักได้ยินเรื่องราวอัศจรรย์ต่างๆเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าก็ดี ปาฏิหาริย์ของพระประธานในโบสถ์ก็ดี เหตุการณ์ธรรมชาติที่จำเพาะมาเกิดขึ้นในวันสำคัญต่างๆ ทางศาสนา ณ ที่แห่งนี้ก็ดี จากบุคคลที่รู้จักก็ดี จากบุคคลที่ไม่รู้จักก็ดี ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องเหลือเชื่อในความสำนึกทั่วไปของปุถุชนทั้งสิ้น ข้าพเจ้าปกติเป็นผู้ค่อนข้างรั้นและไม่ค่อยมีความเชื่อถือในเรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ คุณไสยเข้าทรงหมอดูนัก และมักอดยิ้มหัวไม่ได้เมื่อมีผู้นำสิ่งต่างๆ เหล่านี้มาบอกเล่าให้ฟัง เคยคิดเลยเถิดไปว่าทำไมเขาจะต้องเป็นคนหลงงมงายเพ้อเจ้อเช่นนี้ด้วยเล่า

                    แต่ก็น่าประหลาด ยิ่งไม่เชื่อมากเท่าไร ดูเหมือนจะยิ่งมีเรื่องราวเหล่านี้เข้าหูอยู่เนืองๆ มิได้ขาดทำให้นึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาไรๆ และอยากพิสูจน์ว่าเขาเหล่านั้นตาฝาดมัว หลอกลวงตัวเอง หรือไม่ก็เป็นคนประเภทชอบนึกจินตนภาพอย่างนักนวนิยายข้าพเจ้าจึงเริ่มตั้งข้อสังเกตต่างๆ ตามที่ได้ยินได้ฟังมาอย่างตั้งอกตั้งใจเมื่อเข้าไปกราบพระประธานในโบสถ์ บางครั้งพยายามนึกจินตนาการให้ตัวเองเห็นอย่างเบาบ้าง แต่ก็ไม่เคยได้เห็นอย่างเขาเล่าพอนานเข้าๆ ก็ลืมเหตุการณ์ดังกล่าวไปนาน จนกระทั่งค่ำวันหนึ่ง จำได้ว่าเป็นวันที่คุณหญิงอุไรวรรณ
ท่านเลี้ยงขอบคุณที่พวกเรามีขมีขมันช่วยงานกฐินจนสำเร็จไปด้วยดี ณ โรงทาน วัดพระธรรมกายพี่นุชโทรมาเล่าว่าได้เห็นองค์พระประธานใส สว่างเลื่อนออกมาตามผนังโบสถ์ ท่านลืมตากลมสุกใส (เห็นว่าลูกนัยน์ตากลมป๊อกเหมือนของหลวงพ่อด้วย) มองมายังพี่นุชซึ่งอธิษฐานขอให้ท่านปรากฏให้เห็นเป็นกำลังใจในการสร้างบารมี ซึ่งความเรื่องนี้ได้รับคำยืนยันจากพี่แอ๊วซึ่งอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยว่าแปลกใจมากที่จู่ๆ ก็เห็นพี่นุชซึ่งไหว้พระอยู่ดีๆ นั่งพนมมือตาค้างจ้องมองไปทางพระประธานอย่างตกตะลึง อ้าปากหวอ ไม่พูดไม่จา นั่งนิ่งอยู่นานเป็นครู่ ยังนึกขำพี่นุชอยู่ แต่ตัวพี่แอ๊วไม่เห็นอะไรเลย เพราะไม่ทราบว่าพี่นุชกำลังตะลึงมองอะไรและคนก็ไม่สังเกตด้วย ข้าพเจ้าฟังแล้วก็ผ่านไม่ได้ติดใจสงสัย เพราะเคยได้ยินได้ฟังมาเป็นปกติ ประกอบกับไม่เชื่อว่าจะสามารถเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ด้วยตาเนื้อเป็นทุนเดิมอยู่ จึงไม่ตื่นเต้นด้วยเท่าไร แต่ก็
สนุกและปีติที่เขามีความสุขที่จะเล่าให้เราฟังคลางแคลงอยู่นิดว่าคนอื่นทำไมเขาช่างมีเรื่องอัศจรรย์กันอยู่เรื่อยไม่หยุดหย่อน ก่อนหน้านี้คุณแม่ตุ๋มก็เคยเล่าให้ฟังว่าท่านได้เห็นใบหน้าหลวงพ่อวัดปากน้ำที่บริเวณรัดประคดของพระประธานในโบสถ์อย่างชัดเจนด้วยตาเนื้อหยาบนี้แหละ

                    แต่แล้ว! เหตุประหลาดก็ได้บังเกิดขึ้นกับข้าพเจ้าผู้เต็มไปด้วยความไม่เชื่อจนได้ วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ รู้สึกว่าเป็นวันหลังวันงานเลี้ยงของคุณหญิงสักสองหรือสามอาทิตย์จำได้ไม่มั่น เป็นวันที่พวกเรา ๔ คนตั้งใจจะรีบกลับตอนเพล (๑๑.๐๐น.) เพราะคุณแม่พี่นุชไม่สบายและมีผู้แนะนำหมอให้เผอิญหมออยู่แถวบ้าน ข้าพเจ้าจึงร่วมเดินทางไปด้วย พอเดินมาถึงหน้าโบสถ์ก็ถามกันว่าจะเข้าไปกราบพระกันไหม ตอนแรกว่าจะไม่เข้าแต่ก็เกิดเปลี่ยนความตั้งใจ ทันทีที่ข้าพเจ้าก้าวจะข้ามธรณีประตูโบสถ์ข้าพเจ้ารู้สึกทันทีว่ามีแสงสว่างประหลาดอะไรไม่ทราบ ส่องตรงมายังข้าพเจ้ามาจากทางพระประธานจึงเงยหน้าขึ้นดู เห็นดวงกลมสีขาวดวงใหญ่มากส่องมาจากพระพักตร์ของท่าน ข้าพเจ้าตกใจนิดหนึ่งและรีบหลบตาเพราะคิดว่าตนตาฝาด เลยละความสนใจ ขณะที่เดินตรงมายังท่านเพื่อกราบใกล้ๆ นั้นข้าพเจ้าไม่ได้เงยหน้าดูท่านอีกเลย เมื่อนั่งอธิษฐานขอให้ท่านคุ้มครองใจของข้าพเจ้าให้บริสุทธิ์ผ่องใสปราศจากมลทินใดๆ อยู่นั้น ได้ยินเสียงพี่นุชคุยกับณี (น้องสาวพี่นุช) ว่าเห็นองค์พระที่ผนังโบสถ์ข้าพเจ้านึกในใจ เอาละซี ตาฝาดอีกคนแล้ว แต่เอทำไมจึงไม่ยักเหมือนของเรานะ พออธิษฐานจบจึงหันมาถามพี่นุชซึ่งก็ได้รับคำยืนยันเหมือนเดิมจึงหันไปดู ปรากฏว่าเดี๋ยวนี้ ข้าพเจ้าได้เห็นองค์พระรูปร่างอย่างพระปฏิมากรบนศาลาจาตุฯ เป็นองค์ขาวนั่งขัดสมาธิ องค์ไม่ใหญ่นัก แต่ก็ยังใหญ่กว่าที่ศาลาจาตุฯ เรียงรายเป็นระเบียบเต็มกำแพงเป็นแถวเป็นแนว ท่าเคลื่อนไหวเลื่อนไปมาได้ด้วย ข้าพเจ้าจ้องอยู่นาน และมั่นใจว่าตนมีสติสัมปชัญญะอยู่ทุกขณะที่จองท่านอยู่ และตาไม่ฝาดด้วย ยังเอียงไปซ้ายบ้างขวาบ้างเพื่อให้แน่ใจ แต่ก็ยังเห็นองค์ท่านปรากฏชัดไม่ขาดสาย ขณะนั้นได้ความคิดขึ้นมาอย่างคืออยากพิสูจน์ เพราะเคยได้ยินผู้มาวัดพูดคุยกันว่าผู้ที่เขาเห็นพระกันนั้นอาจเพราะตาฝาด อาจเพราะสร้างจินตนภาพขึ้นเองเพราะศรัทธาจริตสูงประการหนึ่ง อาจเพราะมีแสงไฟส่องไปทางองค์พระ
ทำให้เห็นเงาสะท้อนของท่านปรากฏเบื้องหลังจึงเข้าใจกันผิดๆ พลาดๆ ไปก็ได้อีกประการหนึ่งซึ่งฟังเหตุผลดูก็น่าจะมีมูล ก่อนหน้านี้ข้าพเจ้าเคยเห็นพระประธานองค์ใหญ่ปรากฏอยู่เบื้องหลังพระประธานองค์จริงเป็นพระซ้อนๆ กันหลายองค์เต็มกำแพงมีขนาดใหญ่กว่าพระประธานด้วยซ้ำไปแต่เนื่องจากภาพไม่สุกใสสว่าง แต่ไม่ถึงกับมืดทึบออกสีเทาจางๆ ซึ่งเข้าใจว่าเกิดจากเงาที่สะท้อนแสงเที่ยวนี้ได้เห็นอีกและชัดเจนมากอย่างนี้ก็ไม่ควรละโอกาสลองพิสูจน์ดูให้หายข้องใจว่าเราตาฝาดไปยังหันไปบอกพี่นุชว่าจะเข้าไปดูพระใกล้ๆ มองขึ้นไปบนช่องเพดานซึ่งแสงสว่างสามารถลอดเข้ามาได้แต่เพดานสูงมาก แสงที่เข้ามาก็ไม่มากเท่าไรนักเดินไปซ้ายกลับมาขวา มองไปด้านหลังองค์พระให้แน่ใจว่าไม่มีภาพรอยขีดรอยวาดขององค์พระอยู่บนกำแพงซึ่งพอจะสะท้อนเป็นแสงเงาลวงตาเราได้ปรากฏว่าไม่มีอะไร ขณะนั้นเนื่องจากว่ามัวสนใจที่จะพิสูจน์ทดลองอยู่ จึงลืมนึกดูพระที่เห็น พอกลับมานั่งที่เดิมมองไปยังกำแพงโบสถ์ รู้สึกผิดหวังอย่างมากเพราะไม่เห็นองค์พระที่ปรากฏเมื่อสักครู่อีกเลย ซึ่งขณะนั้นพี่นุชกับณียังคุยชวนกันดูองค์พระที่กำแพงอยู่อีก แสดงว่าท่านยังคงปรากฏให้เขาเห็น ข้าพเจ้าพยายามเอียงขวาเอียงซ้ายเพื่อปรับสายตาให้ได้มุมเพื่อจะเห็นองค์ท่านให้ได้อีกแต่คว้าน้ำเหลว ไม่เห็นอีกเลย จนกราบลาท่านออกมานอกโบสถ์ ได้ไต่ถามคุณป้าคนหนึ่งซึ่งเดินตามเราออกมาว่าได้เห็นองค์พระอย่างเราหรือไม่ ท่านว่าไม่เห็นและเดินกลับเข้าไปอีก เข้าใจว่าคงจะเข้าไปดูส่วนพี่มุ้ยรู้สึกว่าจะไม่ได้เข้าไปจึงไม่ได้อยู่ร่วมในเหตุการณ์นั้น

                    นี้เป็นครั้งแรกที่ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าตาไม่ฝาดและมีความมั่นใจยิ่งขึ้นในสิ่งที่ได้เห็น ประกอบกับเหตุผลที่นำมาคิดพิจารณาภายหลังแล้ว ไม่น่าจะเกิดขึ้นเพราะเหตุทางวิทยาศาสตร์ ไม่น่าจะเกิดขึ้นเพราะตาฝาด และเหตุอื่นๆ นอกเสียจากพุทธาภินิหารที่เป็นความอัศจรรย์ที่ผู้คนส่วนมากจะพบเห็นได้โดยยากเป็นเหตุแห่งพุทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านทั้งเมตตามาโปรดข้าพเจ้าผู้มากไปด้วยความแคลงใจสงสัยในพุทธาภินิหารให้เชื่อมั่นในสัจธรรม ให้มีจิตที่มั่นคงเข้มแข็งประดุจขุนเขาใหญ่ที่ตั้งมั่นอย่างองอาจบนพื้นปฐพีเป็นแน่แท้ และนี่เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่ข้าพเจ้ารู้สึกศิโรราบโดยสิ้นเชิงกับสิ่งที่ไม่เคยเชื่อมาก่อนว่าจะสามารถปรากฏมาให้เห็นเป็นภาพได้
ด้วยตาเนื้อ ทำให้ข้าพเจ้ามั่นใจและกล้าพูดกล่าวขานยืนยันอย่างอาจหาญในทุกที่ว่าพระรัตนตรัยนั้นมีจริงและอยู่ไม่ไกลจากพวกเราเลย เราสามารถเข้าถึงได้ทั้งๆ ที่ยังมีลมหายใจเช่นนี้อยู่ คุณของพระรัตนตรัยยิ่งใหญ่ไพศาลกว่าสรรพสิ่งในจักรวาลและมีมากอนันต์กว่าที่เราคิดและได้รู้ได้เห็นจากหนังสือเล่มไหนๆ ความคลางแคลงสงสัยและลังเลของข้าพเจ้าได้มลายหายไปโดยสิ้นเพราะ

                   ๑. ถ้าภาพนั้นเป็นเงาของพระประธาน
                   ปกติเงาของสิ่งใดย่อมมีรูปลักษณ์เหมือนตัวจริงของสิ่งนั้น แต่ภาพที่ข้าพเจ้าเห็น เป็นองค์พระเหมือนที่ศาลาจาดๆ มิใช่ภาพเดียวกับพระประธานในโบสถ์ และปกติขึ้นชื่อว่าเงาน่าจะต้องมีแสงสีทึบหรือสีเทาๆ ตามปริมาณของแสงที่ส่องมายังวัตถุจริงมิใช่แสงสีขาวชัดอย่างที่เห็น หากเป็นเงาพระประธาน เงาที่ปรากฏควรจะอยู่โดดๆ หรือไม่ก็ซ้อนๆ กัน แต่ที่เห็นกลับเป็นพระหลายองค์เรียงเป็นแนวได้ระดับเดียวกัน เว้นช่วงออกเป็นระยะเท่าๆ กัน เป็นระเบียบงดงามมากและเป็นเส้นตรงยิ่งกว่านั้น องค์พระที่ปรากฏบนกำแพงมีขนาดเล็กกว่าขนาดพระประธานจริง ๑ ใน ๑๕ เท่าเห็นจะได้นับเป็นเงาที่ไม่ได้สัดส่วนกันเลยในหลักวิทยาศาสตร์ พระแต่ละองค์ที่ปรากฏให้เห็นมีลักษณะที่ไม่แข็งกระด้างหรือแข็งทื่ออย่างพระปั้นหรืออย่างศิลาแต่ท่านอ่อนช้อยมีชีวิตชีวา มีความละเมียดละมัยอ่อนไหว เหมือนของนุ่มๆ ที่ไม่ตาย หรือเหมือนวัตถุที่ถ้าสัมผัสด้วยมือจะรู้ถึงการมีลมหายใจอยู่อย่างนั้น เห็นรายละเอียดขององค์ท่านอย่างชัดเจน เช่น รอยพระศก รอยจีวร รูปแขนที่กลมกลึงได้สัดส่วน และรอยเท้าที่ขัดสมาสกัน ถ้าเป็นเงารายละเอียดเหล่านี้จะปรากฏให้เห็นได้อย่างไร

                    ๒. ถ้าตาฝาด
                    ปกติคนตาฝาด เมื่อขยี้ตาหรือหันหน้าไปมองทิศทางอื่นสักครู่ หรือหลับตาสักพักแล้วมองดูใหม่ภาพที่ปรากฏนั้นจะเลือนหายไปหมด แต่นี่แม้ข้าพเจ้าจะได้หันไปคุยและมองหน้าพี่นุชสักครู่หันกลับมามองใหม่ ท่านก็ยังปรากฏของท่านอยู่เช่นเดิม

                    ๓. ภาพที่พี่นุชเห็นกับภาพที่ข้าพเจ้าเห็น เดิมทีข้าพเจ้าเข้าใจว่าเป็นภาพเดียวกัน แต่เมื่อได้มาคุยรายละเอียดกันภายหลัง จึงทราบว่าองค์พระที่พี่นุชเห็นคือองค์พระประธานในโบสถ์ แต่ข้าพเจ้าเห็นนั้นเป็นองค์พระเช่นเดียวกับที่ศาลาจาตุฯ ซึ่งนับว่าต่างกันมาก ท่านคงทราบว่าข้าพเจ้าเป็นคนช่างสงสัยนี่เอง องค์ท่านที่ปรากฏจึงให้ต่างจากพระประธานอย่างสิ้นเชิงเพื่อให้เลิกสงสัยกันเสียทีแต่กระนั้น ข้าพเจ้าก็ยังเบาปัญญาจนได้ถึงกับลุกไปพิสูจน์หาเหตุผลที่ไม่เข้าที โดยไม่คิดเฉลียวใจสักน้อยนิดว่า ถ้าเป็นเงา ทำไมองค์พระที่เห็นจึงมีรูปร่างต่างจากพระประธานไปมากเป็นคนละองค์กันทีเดียว

                    ๔. เมื่อได้ไปสำรวจตรวจตราที่กำแพงแล้วไม่ปรากฏรอยขีด รอยร่างอย่างที่สงสัย นอกจากความว่างเปล่าบนกำแพง โอกาสที่แสงจะส่องมาสะท้อนให้เกิดภาพลวงตาเป็นอันสิ้นสงสัยไปได้เว้นเสียแต่จะเป็นเพราะอำนาจแห่งพุทธานุภาพ

                    (หมายเหตุ ที่ข้าพเจ้าสงสัยและผุดลุกขึ้นเที่ยวสำรวจตรวจตรานั้นให้วุ่นวายก็ดีไปอย่าง กล่าวคือข้าพเจ้าจะไม่เกิดความแคลงใจอีกและจะสบายใจว่าที่ข้าพเจ้าเห็นเป็นบุญตานั้นเป็นภาพที่เห็นในขณะที่มีสติพร้อมอยู่ ต่อไปภายหลังมีใครมาทักท้วงเราก็จะยังเชื่อมั่นของเราอยู่เพราะได้ตั้งข้อสังเกตมาบ้างแล้ว)

                    อันที่จริง ความรู้สึกที่ได้เห็นสิ่งอัศจรรย์นั้นครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของข้าพเจ้า เป็นแต่ว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ข้าพเจ้าได้เห็นด้วยตาเนื้อ ตาที่เราใช้ดูวัตถุสิ่งของอยู่ทุกวันนี้นี่แหละ จึงทำให้ข้าพเจ้าทึ่งและต้องยอมรับความมหัศจรรย์ของพุทธาภินิหารในครั้งนี้ และ ณ ที่นี้ ที่วัดพระธรรมกาย เป็นสถานที่เดียวที่ข้าพเจ้าได้มาพบสิ่งแปลกประหลาดในทางเป็นสิริมงคล เป็นความอัศจรรย์อย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนจากที่ไหน เป็นประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิต

                    ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าทุกๆ ตารางนิ้วของบริเวณวัดพระธรรมกายอันเป็นปุญญสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ล้วนเต็มไปด้วยปุญญาภินิหาร เป็นแหล่งบุญ เป็นเนื้อนาบุญอันยิ่งใหญ่ที่เราทั้งหลายจักได้มาร่วมกันก่อสร้างกองการกุศลที่สูงส่งถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระพุทธเจ้าทั้งปวง และ ณ ที่นี่ เราจะได้รับแต่ความสงบเย็น ความปีติ เบิกบาน ความเอิบอิ่มในบุญมหาศาลที่จักไม่มีวันหมดสิ้นเลยสำหรับผู้รู้คุณค่าและตระหนักชัดในสิ่งที่เขาตั้งใจตั้งจิตถวายด้วยดีแล้วแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลายภายใต้บารมีธรรมอันสุดประมาณได้ของหลวงพ่อธัมมะชโย เจ้าอาวาส
วัดพระธรรมกาย ผู้ซึ่งพวกเราทั้งหลายเคารพรักศรัทธาท่านเหนือสิ่งทั้งปวง ด้วยเมตตาธรรมและความกรุณาอันสุดประมาณที่ท่านมีต่อชาวโลกในอันที่จะชี้ทางสว่างและนำเราให้ข้ามพ้นวัฏสงสารแห่งความอาดูร ทุกข์ทั้งปวงดังที่ท่านปรารภไว้เสมอโดยไม่คำนึงถึงความเหนื่อยยากลำบากกายใจในองค์ท่าน แม้จะประสบพบอุปสรรคนานาประการที่จะต้องฝ่าฟันไปท่านก็ไม่ละความเพียร หมายปลายทางอันจะน่าสันติสุขอันเกษมและความสงบเย็นกลับมาสู่มวลสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงเพียงถ่ายเดียวและเพราะความเมตตากรุณายิ่งนี้เองที่เป็นแหล่งก่อเกิดกำลังใจแก่เราทั้งหลายที่จะถวายแรงกายแรงใจทุกๆ ประการที่เรามีอยู่เพื่อช่วยเร่งงานที่ท่านปรารภให้เสร็จโดยเร็วตามเป้าหมาย เพื่อเป็นบุญติดตามเราในการสร้างบารมีธรรมกับท่าน และเพื่อสืบทอดพระศาสนาตามกำลังของเรา ทั้งจะได้ประกาศคุณแห่งพระรัตนตรัยและคุณของหลวงพ่อให้ชาวโลกเขาได้ตระหนักชัดและบอกต่อๆ กันไปเพื่อยังกุศลและปุญญาภิสังขารได้บังเกิดขึ้นเป็นสิริเป็นมงคล เป็นทรัพย์ที่ติดตัวตราบจนวันเข้า
พระนิพพาน เหนือสิ่งอื่นใด เราจะเป็นสักขีพยานว่าพระสัจธรรมในพระพุทธศาสนามีจริงและเป็นหนึ่ง


สุดศรี บรรณวิทยกิจ, อ.บ.
บริษัท มิตซุย จ๋ากัด

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0070584495862325 Mins